Search

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฝึกโยคะ

การฝึกโยคะ

แม้ว่าเราจะบอกกันอยู่เสมอๆ ว่าการฝึกโยคะให้ประโยชน์มากมายกับทั้งด้านร่างกายและจิตใจแก่ผู้ฝึก จนอาจเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฝึกโยคะ สิ่งสำคัญที่อยากให้ผู้ฝึกทุกคนทำความเข้าใจเสียก่อนก็คือ โยคะไม่ได้ฝึกเพื่อรักษาโรค แม้ว่าโยคะอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดหรือหายจากอาการผิดปกติบางอย่างได้ …แล้วประโยชน์ที่แท้จริงของโยคะคืออะไร? อะไรคือความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการฝึกโยคะบ้าง?

ประโยชน์ที่แท้จริงจากการฝึกโยคะ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดมากขึ้น เช่น ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทในระดับที่ไม่รุนแรง เมื่อมาฝึกโยคะระยะหนึ่งก็ทำให้อาการปวดหลังที่มีอยู่น้อยลงมากหรือไม่ปวดเลย เนื่องจากได้สร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อที่ช่วยผยุงกระดูกสันหลังจากการทำท่าโยคะต่างๆ อาการที่เคยมีจึงได้รับการบรรเทาจากความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องซึ่งช่วยให้การกดทับลดน้อยลง แต่กระดูกสันหลังที่เสื่อมสภาพนั้นก็ยังอยู่ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อาจบอกได้ว่าโยคะรักษาโรคนี้หรือโรคใดๆ โดยตรงได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นจากโรคดังกล่าวได้

ซึ่งประโยชน์ที่แท้จริงของโยคะมีดังนี้

1. เสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น: การฝึกโยคะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นของร่างกาย ทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ

2. ปรับปรุงการหายใจและการไหลเวียนโลหิต: ท่าโยคะและการฝึกหายใจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหายใจและการไหลเวียนโลหิต ทำให้เรารู้สึกมีพลังและสดชื่น

3. ลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ: โยคะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล โดยการฝึกสมาธิและการผ่อนคลาย ทำให้จิตใจสงบและมีสมาธิมากขึ้น

4. ปรับปรุงการทรงตัวและการทำงานร่วมกันของระบบ: ท่าโยคะหลายท่าช่วยเสริมสร้างการทรงตัวและการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เรามีความสมดุลและมั่นคงมากขึ้น

ข้อจำกัดเกี่ยวกับการฝึกโยคะ

แม้ว่าคุณภาพชีวิตหรือสุขภาพทั้งกายและใจของเราจะสามารถอยู่ดีมีสุขขึ้นจากการฝึกโยคะได้ แต่เหตุผลที่โยคะไม่ได้รักษาโรคได้นั้นมี ดังนี้

1. ไม่ได้รักษาโรคที่มีสาเหตุทางกายภาพหรือชีวภาพ: โยคะไม่สามารถรักษาโรคที่มีสาเหตุทางกายภาพหรือชีวภาพ เช่น มะเร็ง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ แต่โยคะสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมและลดความเครียดที่อาจส่งผลต่อโรคเหล่านี้

2. ไม่ใช่การรักษาทางการแพทย์: โยคะไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์ได้ การรักษาโรคที่มีความซับซ้อนหรือรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

3. การใช้โยคะในทางที่ไม่เหมาะสม: บางคนอาจเชื่อว่าโยคะสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยทุกประเภทได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเลยการรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น การฝึกโยคะควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร ไม่ใช่การทดแทนการรักษาทางการแพทย์

4. ความเสี่ยงจากการฝึกโยคะที่ไม่เหมาะสม: หากฝึกโยคะโดยไม่มีคำแนะนำที่ถูกต้องหรือฝึกท่าที่ยากเกินไป อาจเกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นควรฝึกโยคะภายใต้คำแนะนำของผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรอง

โยคะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยลดความเครียด เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรง แต่ควรเข้าใจว่าโยคะไม่ได้ช่วยในการรักษาทุกโรค การดูแลสุขภาพควรเป็นการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการได้รับการรักษาทางการแพทย์เมื่อจำเป็น การมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโยคะจะช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากการฝึกโยคะได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากที่สุด